ต้องปรับตัวยังไง ถึงจะมองเห็นอนาคต

ในยุคที่ปัญหาตัวโตอย่าง COVID-19 เข้ามากัดเราอย่างเจ็บๆคัน 

บางธุรกิจอาจต้องหยุดชะงัก บางธุรกิจหน้าร้านอาจจะขายไม่ได้ 

บางธุรกิจที่มันเกินปัจจัย 4 ลูกค้าต้องคิดแล้วคิดอีก ว่าจะซื้อดีไหม 

จำเป็นขนาดไหน นั่นคือ คนซื้อรอบคอบขึ้น ซื้อยากขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ

ถ้าแบรนด์มองเห็นจุดที่เป็นปัญหาของผู้บริโภคได้ชัดเท่าไหร่ 

ก็จะมองเห็นไอเดียในการทำให้เกิดบริการ หรือ ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเกิดขึ้น 

และการสื่อสารที่ชัดเจนเพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจนั่นก็จะเป็น 

การสร้างความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์มากขึ้นเท่านั้น

ต้องปรับตัวยังไง ถึงจะมองเห็นอนาคต

ถ้าเราพูดถึงปัญหา ก็อาจจะพูดได้ว่ามันก็คือสิ่งที่กวนใจเรา

เหมือนกับว่า ถ้ามีมดมากัด เราก็ต้องเกาซะให้สาแก่ใจ จะได้หายคันซักที

แต่บางปัญหาถ้าใหญ่เกินไป เราใช้แค่มือเราอาจจะเกาไม่หมด
ในยุคที่ปัญหาตัวโตอย่าง COVID-19 เข้ามากัดเราอย่างเจ็บๆคัน บางธุรกิจอาจต้องหยุดชะงัก บางธุรกิจหน้าร้านอาจจะขายไม่ได้ บางธุรกิจที่มันเกินปัจจัย 4 ลูกค้าต้องคิดแล้วคิดอีก ว่าจะซื้อดีไหม จำเป็นขนาดไหน นั่นคือ คนซื้อรอบคอบขึ้น ซื้อยากขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ

ในยุคที่เกมส์เป็น Hard mode แบบนี้ 

เราต้องคิดแบบไหน? 

ทำแบบไหนให้คนสนใจ ?

โดยปกติแล้ว Idea ในการขายของซักชิ้นให้คนซื้อ เราจำเป็นต้องเข้าไปให้ถึง Touch Point ของลูกค้าก่อน เราต้องรู้ Pain Point ของลูกค้าคืออะไร? เพราะถ้าเรายิ่งเจอเร็ว เราก็จะรู้ได้ว่าช่วงนี้คนต้องการอะไร และหน้าที่ของผู้ประกอบการทั้งหลายที่ต้องทำคือ เสริฟ Product หรือ Service ให้ตรงความต้องการนั้นๆ

อนาคตก็ไม่เห็น ตัวเราก็ต้องรอด

สิ่งหนึ่งที่จะการันตีอนาคตที่สดใสสำหรับเราคือ การมีชีวิตรอดปลอดภัย สุขภาพการเงินเราถ้าไม่ดีเราหาใหม่ได้ แต่สุขภาพร่างกายมันพังแล้วพังเลย คนส่วนมากจึงต้องพยายามป้องกันตัว และเพ่งความสนใจไปที่ความปลอดภัยเป็นหลัก อุปกรณ์ต่างๆ ทั้งมาสก์ผ้า มาสก์แบบใช้แล้วทิ้ง, เจล, แฮลกอฮอล์ จึงขายกันถล่มเพราะนั่นคือสิ่งที่คนต้องการ

เมื่อสวม Mask ก็เป็นปัญหาได้เหมือนกัน

แม้มาสก์จะช่วยเรื่องความปลอดภัยแต่ก็สร้างปัญหาได้เหมือนกันอย่าง เช่น ในการ Unlock มือถือเราต้องมานั่งกรอก Passcode เพราะการแสกนใบหน้า Face-ID ใช้ไม่ได้เพราะมาสก์ปิดบางส่วนของหน้าเรา นั่นคือจุดที่ Danielle Baskin นักออกแบบและศิลปินชาวสหรัฐฯ เอามาเป็น Idea เปิดตัว Resting Risk Face มาสก์ปิดหน้าที่พิมพ์หน้าเราเข้าไป โดยใช้การ Upload รูปหน้าเราผ่าน Website หรือ Application เพื่อพิมพ์ส่วนที่ขาดหายไปของหน้าเราลงบนมาสก์แบบมาตรฐาน N95

แม้เราจะมีมาสก์ที่ช่วยป้องกันแล้ว แต่นั่นก็ยังไม่พอ

ในยุคที่การสั่ง Food Delivery กำลังเป็นสิ่งที่ทุกคนทำกันเป็นปกติ เมื่อหน้าร้านขายไม่ได้  ธุรกิจหลังร้านก็หยุดขายไม่ได้เหมือนกัน (เดี๋ยวเจ๊ง) การปรับตัวแบบเร่งด่วนจึงต้องทำกันถ้วนหน้า โดยจุดสำคัญที่ร้านจะต้องนึกถึง คือ ความปลอดภัยในกระบวนการ เพราะการสร้าง “ความเชื่อมั่น” คือสิ่งที่คนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากที่สุด

ในยุคที่มี Delivery ส่งของไปมาทุกวัน (แต่เราอยู่บ้าน)

ผู้บริโภคก็จะเกิดช่องว่างของคำถามช่องใหญ่ๆเลยว่า ก่อนส่งมาถึงเราจะปลอดภัยไหม? 

บริษัท YumChina ของจีนที่ดูแล Fastfood Chain อย่าง KFC และ Pizza Hut คงเห็นถึง Pain Point นี้ เลยมีบริการที่สร้างกระบวนการ เพื่อให้คนรู้ว่าของที่ได้ ถึงมือเข้าปากเนี่ยมันปลอดภัย เพราะลูกค้าจีนส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ร้าน ทาง YumChina จึงได้มีการ ปรับรูปแบบบริการจากขายหน้าร้านแบบเดิม ไปสู่การขายผลิตภัณฑ์

ก่อนปรุงสุกส่งไปถึงมือลูกค้าพร้อมสูตรในการปรุงด้วยมือตัวเอง จะได้มั่นใจว่าของที่เรากินสะอาดทุกกระบวนการทุกขั้นตอน

หรืออย่างกรณีของร้านในไทยที่น่าสนใจในเรื่องการสื่อสารและเล่าเรื่องรายละเอียด Copper Buffet ในเรื่องของคุณภาพอาหารที่ทางร้านสร้างภาพลักษณ์แบบจัดเต็มเรื่องคุณภาพแบบไม่ปราณีประนอมแล้ว เราจะเห็นได้ว่าทางร้านใช้ สื่อทั้งภาพ วีดีโอ ในการสร้าง Content โชว์รายละเอียดการทำ บรรจุสินค้าแบบเน้นมาตราการความปลอดภัย จึงทำให้เราเชื่อมั่นได้ว่าของที่ได้กินไปปลอดภัยแน่ๆ

จะเห็นได้ถ้าแบรนด์มองเห็นจุดที่เป็นปัญหาของผู้บริโภคได้ชัดเท่าไหร่ ก็จะมองเห็นไอเดียในการทำให้เกิดบริการ หรือ ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเกิดขึ้น และการสื่อสารที่ชัดเจนเพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจนั่นก็จะเป็น การสร้างความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์มากขึ้นเท่านั้น

สุดท้ายแม้ปัญหาจากแผลมดกัดจะยังไม่หาย แต่คำถามต่อไปคือว่ามือที่ใช้เกาอาจจะไม่ใช่คำตอบเสมอไป เพราะไอเดียที่ดีอาจจะคือยาดีที่คอยทาให้แผลนั้นหายคันก็เป็นได้

Reference

https://www.dezeen.com/2020/02/27/face-recognition-masks-resting-risk-face/

https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-03-22/china-kfc-owner-moves-to-cooking-kits-catering-to-survive-virus

https://www.facebook.com/copperbuffet/videos/751260752070153/

Share this article

เราใช้คุกกี้ (cookie)

เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานจากการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราและเพื่อสนับสนุนประสิทธิภาพ ในการนำเสนอข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ที่ผู้เข้าใช้งานจะได้รับชม อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

โดยทางบริษัทจะสร้างไฟล์ข้อมูลที่มีขนาดเล็กไว้ในอินเตอร์เน็ตเบราว์เชอร์ของผู้เข้าใช้งาน เพื่อเก็บและจดจำความสนใจของผู้เข้าใช้งาน 

เพื่อพัฒนาให้มีการแสดงผลที่สอดคล้องกับความชื่นชอบ และความสนใจในการใช้งาน เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการแสดงผลของข้อมูล วิเคราะห์และนำเสนอโฆษณา 

รวมถึงเพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการต่างๆ ภายในเว็บไซต์ของเรา

และเมื่อผู้เข้าใช้งานกลับมาเยี่ยมชม หรือกลับเข้ามาใช้บริการในครั้งต่อไป แต่การเก็บข้อมูลด้วยคุกกี้จะไม่ระบุตัวตนของผู้เข้าใช้งาน

ทั้งนี้เพื่อทำการวิเคราะห์ซึ่งอาจทำหรือให้บริการโดยบุคคลอื่นที่ให้บริการหรือได้รับมอบหมายให้กระทำแทนในนามของ www.craftphic.com เช่น Google Analytic เป็นต้น

เมื่อผู้เข้าใช้งานมีการกลับมาเยี่ยมชมเว็บไชต์โดยไม่เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าคุกกี้บนอินเตอร์เน็ตเบราส์เชอร์ อุปกรณ์ของผู้ใช้งานจะยอมรับคุกกี้โดยอัตโนมัติในการเข้าใช้งานในครั้งต่อไป

ซึ่งถ้าหากผู้เข้าใช้งานไม่ต้องการให้คุกกี้ทำการรวบรวมข้อมูล ผู้ใช้งานสามารถเลือกเปลี่ยนแปลง หรือตั้งค่าการยอมรับคุกกี้ได้ที่เมนู “การตั้งค่า” ของอินเตอร์เน็ตเบราว์เชอร์ที่ใช้งานอยู่